ไขข้อสงสัยแก้ “หางตาตก” ด้วยการผ่าตัดยกหางตา Sub Brow Lift ดีหรือไม่? มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง?

โคอาสรุปให้ Sub-Brow Lift มีดีอย่างไร? ช่วยย้อนวัยได้ยังไง
– Sub-Brow Lift เป็นศัลยกรรมเฉพาะทางที่ช่วยแก้ไขปัญหาหางตาตกและผิวหนังบริเวณคิ้วหย่อนคล้อย โดยผ่าตัดผ่านแผลขนาดเล็กใต้คิ้วเพื่อยกและจัดโครงสร้างกล้ามเนื้อให้กระชับขึ้น – มีจุดแตกต่างสำคัญจากการทำตาสองชั้นตรงที่ Sub-Brow Lift เน้นแก้ไขเฉพาะบริเวณหางตาและใต้คิ้ว โดยไม่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างชั้นตา ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่า – ราคาการทำ Sub-Brow Lift อยู่ที่ประมาณ 30,000 – 60,000 บาท ไม่รวมค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอื่นๆ เช่น ค่าตรวจร่างกาย ยา และการติดตามผลการรักษา ซึ่งอาจเพิ่มขึ้นอีก 5,000 – 10,000 บาท – สามารถทำ Sub-Brow Lift พร้อมกับศัลยกรรมอื่นๆ เช่น ตาสองชั้นได้ เพื่อประหยัดเวลาผ่าตัดและการพักฟื้น แต่ต้องระวังเรื่องภาวะแทรกซ้อนที่อาจเพิ่มขึ้น – ปลดล็อกความสวยด้วย Sub-Brow Lift จาก KOA Clinic ที่พร้อมยกระดับความมั่นใจของคุณด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยและการดูแลแบบมืออาชีพ ปรึกษาฟรี! แอดไลน์ @koaclinic วันนี้ |
Sub-Brow Lift คืออะไร ทำไมถึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับปัญหาหางตาตก
Sub-Brow Lift เป็นศัลยกรรมเฉพาะทางที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาหางตาตกและผิวหนังบริเวณคิ้วที่หย่อนคล้อย โดยใช้เทคนิคการผ่าตัดที่แม่นยำผ่านแผลขนาดเล็กบริเวณใต้คิ้ว เพื่อยกและจัดโครงสร้างของกล้ามเนื้อและผิวหนังให้กระชับขึ้น การผ่าตัดนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหางตาตก ผิวหนังบริเวณเปลือกตาหย่อนคล้อย หรือต้องการปรับรูปทรงตาให้ดูสดใสขึ้น เทคนิคนี้ช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและมีแผลผ่าตัดที่มองเห็นได้ยาก
Sub-Brow Lift ช่วยแก้ไขหางตาตกได้อย่างไร?

การผ่าตัด Sub-Brow Lift ทำงานโดยการยกและจัดระเบียบโครงสร้างใต้ผิวหนังบริเวณหางตาและใต้คิ้ว แพทย์จะทำการผ่าตัดผ่านแผลขนาดเล็กที่ซ่อนอยู่ใต้ขนคิ้ว จากนั้นจะทำการยกและจัดตำแหน่งของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ส่งผลให้หางตาที่ตกได้รับการแก้ไขและยกขึ้น ทำให้ดวงตาดูสดใสและกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ เทคนิคนี้ยังช่วยลดรอยย่นและความหย่อนคล้อยของผิวหนังบริเวณหางตาได้อีกด้วย
Sub-Brow Lift และการทำตาสองชั้นแตกต่างกันอย่างไร
ข้อแตกต่างหลัก ๆ ของการทำ Sub-Brow Lift และตาสองชั้นมีดังนี้
เปรียบเทียบเทคนิคการผ่าตัด
การทำ Sub-Brow Lift จะเน้นการผ่าตัดผ่านแผลขนาดเล็กบริเวณใต้คิ้ว โดยมุ่งเน้นการยกและจัดโครงสร้างของกล้ามเนื้อและผิวหนังในบริเวณหางตาโดยตรง ในขณะที่การทำตาสองชั้นจะเป็นการผ่าตัดที่เปลือกตาบน โดยมีการตัดผิวหนังส่วนเกินออกและสร้างชั้นตาขึ้นมาใหม่ เทคนิค Sub-Brow Lift จึงมีความซับซ้อนน้อยกว่าและมีแผลผ่าตัดที่เล็กกว่า แต่ต้องอาศัยความแม่นยำในการผ่าตัดสูงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมมาตรและเป็นธรรมชาติ
ความแตกต่างของผลลัพธ์
Sub-Brow Lift จะให้ผลลัพธ์ที่เน้นการแก้ไขปัญหาหางตาตกและความหย่อนคล้อยของผิวหนังบริเวณใต้คิ้วโดยเฉพาะ ทำให้ดวงตาดูสดใสและกระชับขึ้น โดยไม่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างของชั้นตา ในขณะที่การทำตาสองชั้นจะเปลี่ยนแปลงลักษณะของเปลือกตาโดยตรง สร้างชั้นตาใหม่และปรับขนาดของเปลือกตาให้เข้ากับสัดส่วนใบหน้า ผลลัพธ์ของ Sub-Brow Lift จึงดูเป็นธรรมชาติและแทบไม่มีใครสังเกตเห็นว่าผ่านการทำศัลยกรรม
ข้อบ่งชี้ในการเลือกวิธี
การเลือกระหว่าง Sub-Brow Lift และการทำตาสองชั้นขึ้นอยู่กับปัญหาที่ต้องการแก้ไขเป็นหลัก หากมีปัญหาหางตาตก หรือผิวหนังบริเวณใต้คิ้วหย่อนคล้อย แต่ชั้นตามีความสวยงามอยู่แล้ว Sub-Brow Lift จะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า แต่หากต้องการเปลี่ยนแปลงลักษณะของชั้นตา หรือมีปัญหาเปลือกตาบนมีผิวหนังมากเกินไป การทำตาสองชั้นจะเป็นวิธีที่แก้ปัญหาได้ตรงจุดมากกว่า
กลุ่มผู้เหมาะสมกับแต่ละวิธี

Sub-Brow Lift เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหางตาตก ผิวหนังบริเวณใต้คิ้วหย่อนคล้อย หรือต้องการเพิ่มความสดใสให้กับดวงตาโดยไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของชั้นตา มักเหมาะกับผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไปที่เริ่มมีปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวหนัง ในขณะที่การทำตาสองชั้นเหมาะกับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงลักษณะของชั้นตา หรือมีปัญหาเปลือกตาบนหนาเกินไป โดยไม่จำกัดอายุแต่ต้องมีสภาพผิวและสุขภาพที่แข็งแรงพร้อมสำหรับการผ่าตัด
Sub-Brow Lift ราคาเท่าไร
การทำศัลยกรรม Sub-Brow Lift มีราคาที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยปัจจัยหลักที่มีผลต่อราคาคือความซับซ้อนของปัญหาที่ต้องแก้ไข ประสบการณ์และความชำนาญการของศัลยแพทย์ รวมถึงมาตรฐานและชื่อเสียงของสถานพยาบาล นอกจากนี้ เทคนิคและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผ่าตัดก็มีส่วนสำคัญในการกำหนดราคาเช่นกัน
โดยทั่วไป ราคาของการทำ Sub-Brow Lift จะอยู่ในช่วง 30,000 – 60,000 บาท ทั้งนี้ ราคาดังกล่าวครอบคลุมค่าผ่าตัดและค่าแพทย์เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ผู้เข้ารับการผ่าตัดควรเตรียมค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับการตรวจร่างกายก่อนผ่าตัด ยาและอุปกรณ์ทำแผล รวมถึงค่าติดตามผลการรักษาในระยะยาว ซึ่งอาจเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 5,000 – 10,000 บาท
เตรียมตัวก่อนผ่าตัดยกหางตา Sub Brow Lift ต้องทำอย่างไรบ้าง?
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดยกหางตา Sub Brow Lift ถือว่าเป็นอีกขั้นตอนที่ต้องให้ความสำคัญ โดยมีรายละเอียดที่ควรรู้ดังนี้
การตรวจสุขภาพ
การตรวจสุขภาพก่อนการผ่าตัด Sub-Brow Lift มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยแพทย์จะตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด การทำงานของตับและไต รวมถึงความผิดปกติของระบบการแข็งตัวของเลือด นอกจากนี้ยังมีการตรวจคัดกรองโรคประจำตัวที่อาจส่งผลต่อการผ่าตัด เช่น โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน หรือโรคภูมิแพ้ต่างๆ เพื่อวางแผนการผ่าตัดที่ปลอดภัยที่สุด
การงดยาและอาหารเสริม
ควรหยุดรับประทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน วิตามินอี และอาหารเสริมสมุนไพรต่างๆ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด นอกจากนี้ต้องแจ้งประวัติการใช้ยาทั้งหมดให้แพทย์ทราบ รวมถึงงดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนและหลังการผ่าตัด เพื่อให้แผลหายดีและลดความเสี่ยงในการผ่าตัด
การเตรียมตัวก่อนวันผ่าตัด
วันก่อนผ่าตัดควรอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายให้สะอาด งดอาหารและน้ำอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด พักผ่อนให้เพียงพอ และถ้าใส่คอนแทคเลนส์ควรถอดออกก่อน ไม่ควรแต่งหน้า หรือใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวใด ๆ บริเวณที่จะทำการผ่าตัด และควรสระผมให้สะอาดเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
สิ่งที่ควรนำมาในวันผ่าตัด
ควรเตรียมบัตรประชาชน หรือเอกสารยืนยันตัวตน ประวัติการรักษาและผลการตรวจสุขภาพทั้งหมด เสื้อผ้าที่สวมใส่สบายและกระดุมหน้า แว่นตากันแดดสำหรับป้องกันแสงหลังผ่าตัด และควรมีผู้ติดตามมาด้วยเนื่องจากหลังผ่าตัดอาจยังไม่สะดวกในการขับรถกลับด้วยตนเอง ถ้ามีโรคประจำตัวควรนำยาประจำตัวมาด้วย และเตรียมเงินสำหรับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มเติม
ข้อดีของการทำ Sub-Brow Lift
การทำ Sub-Brow Lift มีประโยชน์หลายประการในการแก้ไขปัญหาหางตาตกและผิวหนังหย่อนคล้อยบริเวณใต้คิ้ว ช่วยให้ดวงตาดูสดใสและกระชับขึ้น โดยไม่ทิ้งร่องรอยแผลผ่าตัดที่เห็นได้ชัด นอกจากนี้ยังเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาเฉพาะจุดโดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของชั้นตาทั้งหมด
ข้อเสียของการทำ Sub-Brow Lift
การผ่าตัด Sub-Brow Lift มีข้อจำกัดบางประการที่ควรทราบ เช่น ไม่สามารถแก้ไขปัญหาถุงใต้ตาหรือรอยตีนกาได้โดยตรง และอาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวหนังบางมากหรือมีแนวโน้มการเกิดแผลเป็นคีลอยด์ นอกจากนี้ ผลลัพธ์ของการผ่าตัดอาจไม่ถาวรและอาจต้องทำซ้ำในอนาคตเมื่อผิวหนังเริ่มหย่อนคล้อยตามอายุที่มากขึ้น
ผ่าตัดยกหางตา Sub-Brow Lift พักฟื้นนานไหม?
การผ่าตัดยกหางตา (Sub-Brow Lift) มักจะใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1-2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับการดูแลหลังการผ่าตัดและลักษณะการตอบสนองของร่างกายแต่ละคน โดยในช่วงสัปดาห์แรกอาจมีอาการบวมและช้ำบริเวณรอบ ๆ ตา ซึ่งสามารถบรรเทาได้ด้วยการประคบเย็นหรือยาตามคำแนะนำของแพทย์ หลังจากนั้น อาการบวมจะค่อย ๆ ลดลง และสามารถกลับไปทำกิจกรรมประจำวันได้ แต่ยังควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่ทำให้มีแรงกระแทกบริเวณใบหน้าในช่วง 3-4 สัปดาห์แรก เพื่อให้ผลการผ่าตัดออกมาดีที่สุด
ผ่าตัดยกหางตา Sub-Brow Lift ทำแล้วอยู่ได้นานไหม?
การผ่าตัดยกหางตา Sub-Brow Lift สามารถให้ผลลัพธ์ที่คงทนอยู่ได้นาน โดยปกติแล้วสามารถเห็นผลที่ดีอยู่ได้ประมาณ 5-10 ปี ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุ, สภาพผิว, และการดูแลรักษาหลังการผ่าตัด
ทั้งนี้การดูแลรักษาผลลัพธ์เป็นสิ่งสำคัญในการยืดอายุของผลลัพธ์ เช่น การหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดจัดโดยไม่ใช้ครีมกันแดด, การบำรุงผิวด้วยครีมบำรุงที่เหมาะสม, และการดูแลสุขภาพทั่วไป รวมถึงการหลีกเลี่ยงการกระทำที่อาจทำให้เกิดการหย่อนคล้อยของผิว เช่น การยิ้ม หรือขมวดคิ้วบ่อย ๆ
ผ่าตัดยกหางตา Sub-Brow Lift ทำพร้อมศัลยกรรมตาสองชั้นได้ไหม?
เราสามารถผ่าตัดยกหางตา Sub-Brow Lift ร่วมกับการทำศัลยกรรมอื่น ๆ เช่น การทำตาสองชั้น หรือการยกกระชับใบหน้าได้ โดยจะช่วยประหยัดเวลาในการผ่าตัดและเวลาพักฟื้น เพราะสามารถทำทั้งสองอย่างในครั้งเดียว ทำให้ลดจำนวนการผ่าตัดและการฟื้นตัวในอนาคต นอกจากนี้ยังช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและมีความสมดุลในการปรับรูปหน้า อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การบวมช้ำมากเกินไป หรือการเกิดการติดเชื้อ หากไม่ดูแลรักษาอย่างถูกต้อง ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการเลือกวิธีที่เหมาะสมและตรวจสอบสุขภาพโดยรวมก่อนการผ่าตัด เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
สรุปบทความ
การผ่าตัดยกหางตา Sub-Brow Lift เป็นวิธีที่ช่วยปรับรูปทรงของหางตาให้ดูยกขึ้นและดูสดใสขึ้น ซึ่งมีประโยชน์ในการลดความหย่อนคล้อยของผิวบริเวณหางตาและทำให้ดวงตาดูโตขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยเสริมความมั่นใจให้กับผู้ที่รู้สึกว่ารูปตาไม่สมบูรณ์แบบ
การเลือกแพทย์ผู้ชำนาญการเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะการผ่าตัดเกี่ยวกับใบหน้าและตาต้องการความละเอียดและทักษะเฉพาะตัว แพทย์ที่มีความชำนาญการและประสบการณ์จะสามารถให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับลักษณะและความต้องการของแต่ละบุคคลได้ และลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆKOA Clinic มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพร้อมแก้ปัญหาหางตาตกได้อย่างอยู่หมัด หากคุณกำลังมองหาจักษุแพทย์ผู้ชำนาญการที่พร้อมให้คำปรึกษา ที่ @koaclinic พร้อมที่จะช่วยคุณแก้ไขปัญหา ติดต่อเราได้เลย!



